Home » » ที่สุดของชีวิต!! เธอไปขายบริการอยู่ ตปท. เคยรับลูกค้า 1 คืน 53 คน ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ฟังเธอเล่าให้ฟังอย่างพีค !???

ที่สุดของชีวิต!! เธอไปขายบริการอยู่ ตปท. เคยรับลูกค้า 1 คืน 53 คน ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ฟังเธอเล่าให้ฟังอย่างพีค !???

Written By siamnews on Tuesday, August 30, 2016 | 7:18:00 AM


ชีวิตและการต่อสู้ของหญิงไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก...บนเส้นทางธุรกิจหญิงบริการในย่านเกลั้ง ในสิงคโปร์ เรื่องราวแห่งการต่อสู้ กัดฟันรับลูกค้าถึง 56 คนต่อคืน ก็เกิดขึ้นแล้ว หรือนี่จะเป็นอีกบทหนึ่งของอาเซียน

สิบชาติภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบไปด้วย ไทย,เวียดนาม,บรูไน,กัมพูชา,อินโดนีเซีย,ลาว, สิงคโปร์,มาเลเซีย,พม่า,ฟิลิฟปินส์ ซึ่งจะมีการรวมตัวกันเป็น "ประชาคมอาเซียน" เช่นเดียวกับฟากฝั่งยุโรปที่มี "EU" เพื่อที่จะเพิ่มอำนาจต่อรองและขีดความสามารถการแข่งขันของอาเซียนในเวที ระหว่างประเทศ รวมถึงความสามารถในการรับมือกับปัญหาใหม่ๆ ในระดับโลกที่ส่งผลกระทบมาถึงภูมิภาคอาเซียน

แต่การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น เราไม่รู้ว่า การนับถอยหลังจะเหมือนการนับถอยหลังแบบวิ่งแข่งหรือไม่ ที่พอได้สัญญาณปล่อยตัวทุกคนจะวิ่งไปข้างหน้า หรือว่าจะเป็นการนับถอยหลังแบบชนวนจุดระเบิด เมื่อนับถึงศูนย์ ทุกอย่างก็ "บึ้ม"

การรวมตัวกันนอกจากจะเศรษฐกิจเป็นหนึ่ง สังคมแห่งอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังมีอีกสารพัดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น อาชญากรรมข้ามชาติ สิ่งของผิดกฎหมาย ธุรกิจนอกกฎหมาย สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะขยายความเชื่อมโยงกันมากขึ้น เพราะนั่นเป็นอีกช่องทางหนึ่งของ การดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด

อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว และยังดำรงอยู่ ที่เป็นผลกระทบจากเรื่องของแรงงานข้ามชาติ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศหนึ่ง ดึงดูดแรงงานจากอีกประเทศหนึ่ง รวมทั้งการตามมาด้วยเรื่องของ แรงงานสตรีข้ามชาติ ที่เข้าไปขายตัว

บันทึกเรื่องราวของ เส้นทางบนความยากลำบากในการพลีกายแลกเงินของหญิงไทย ที่เข้าไปเสี่ยงขายตัวในประเทศสิงคโปร์ มีอยู่ตอนนหนึ่งที่ถูกถ่ายทอดในบันทึกเรื่องราว ในหนังสือเรื่อง "คนไกลบ้าน" โดย พัฒนา กิติอาษา ซึ่งบันทึกในหนังสือเล่มนี้ สนับสนุนการเก็บข้อมูลโดย สถานเอกอัครราชทูตไทยในสิงคโปร์ และกรมการกงศุล กระทรวงการต่างประเทศ ที่ถ่ายทอดเรื่องราว ชีวิตคนงานในสิงคโปร์ โดยมี สมาคมแรงงานไทยในสิงคโปร์ช่วยประสานข้อมูล ตอนหนึ่งของหนังสือที่มีชื่อเรื่องว่า "บันทึกระทมของคนขายตัว" ที่ได้ตีแผ่เรื่องจริงของหญิงสาวที่เข้าไปขายบริการทางเพศ เพื่อหาเลี้ยงชีพที่ประเทศสิงคโปร์ และ ประเทศมาเลเซีย

"พลอย" (นามสมมุติ) หญิงสาวจากจังหวัด จ.บุรีรัมย์ ตัดสินใจเดินทางมาขายบริการในประเทศสิงคโปร์โดยผ่านคนดูแลที่เรียกว่า"แม่ แท็ค" โดนเธอจะต้องเสียค่า "แท็ค" (ค่านายหน้า) ให้กับ แม่แท็ค ถ้าใช้เงินตัวเอง ค่ารถ ค่าพาสปอร์ต ค่าโรงเเรมที่สิงคโปร์ ค่าอยู่ ค่ากิน แม่แท็คจะมีงานให้ทำคือ "ขายบริการทางเพศให้คนงานในป่า" เมื่อตกลงกับ แม่เท็คเรียบร้อยแล้ว จะมีคนดูต้นทางระวังตำรวจให้ การทำงานครั้งนี้ของเธอ ต้องเข้าไปทำในป่า นอนในป่า ไม่มีน้ำล้าง วันหนึ่งรับเเขก 10-20 คน รอบละ 20 เหรียญต่อคน ส่วนมากเป็นพวกอินเดีย บังกลาเทศ แต่แขกพวกนี้จะเสร็จเร็ว รอบหนึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที

สำหรับเงื่อนไขที่บอกว่าต้องเสียค่าแท็คให้แม่แท็คนั้น มีเงื่อนไขว่า ถ้าใช้เงินตัวเองเป็นค่าใช้จ่าย เขาขอแค่ 50 รอบ (หมายถึงรับแขก 50 คน คิดเป็นเงินประมาณ 1,000 เหรียญสิงคโปร์ แต่ถ้าใช้เงินเขา ออกเป็นค่าใช้จ่ายก่อน ต้องจ่ายคืนให้เขาถึง 100 รอบ (หมายถึงรับแขก 100 คน คิดเป็นเงินประมาณ 2,000 เหรียญสิงคโปร์) เธอเลือก 50 รอบ เพราะเธอบอกว่าพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ครั้งเเรกเสียค่ารถบัสมาสิงคโปร์ 1,500 บาท ค่าทัวร์ไกด์ 1,000 ทั้งหมดรวมเเล้ว 2,500 บาท

ตอนเดินทางครั้งแรก เธอเล่าว่า เธอตื่นเต้นมาก กลัวว่าจะเข้าประเทศไม่ได้ เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ถามคำถามเธอหลายคำถาม เธอถูกสอบอยู่ที่ด่านประมาณ 3 ชั่วโมงเพราะวันนั้นมีผู้หญิงเดินทางมาพร้อมกันเยอะมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

หลังจากที่่เธอทำงานใช้ แท็ค แม่แท็คจบครบ และเก็บมาได้สักก้อน เธอก็คิดจะกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทย แต่เมื่อกลับมา ใช้เงินหมด กจะต้องกลับไปใช้ ขายบริการเช่นเดิม

การทำงาน ประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะถ้าหากถูกตำรวจจับได้ จะโดนหลายข้อหา พร้อมกันนี้จะติด blacklist ขึ้นบันชีดำไม่ให้เข้าประเทศนั้นอีกต่อไป นอกจากเรื่องราวของสาวพลอยที่ต้องไปใช้ชีวิตขายบริการอยู่ต่างเมือง หนังสือพิมพ์นิวสเตรทไทมส์ได้ออกมาแฉ หญิงบริการทางเพศชาวต่างชาติในมาเลเซีย โดยระบุว่า หญิงขายบริการจะใช้วิธีจ่ายเงินให้หนุ่มๆ ชาวท้องถิ่นเดือนละ 1,500 ดอลลาร์ แลกกับการเป็นสามี เพื่อที่พวกเธอจะได้รับอนุญาตให้อยู่ในมาเลเซียทำการค้าบริการต่อไปได้ โดยภายใต้กฎหมายผู้อพยพ คู่แต่งงานของชาวมาเลเซียจะได้รับวีซ่าเบื้องต้นเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศได้ยาวนานเป็นปี ซึ่งจะมีการต่ออายุโดยอัตโนมัติ

นายอับดุล เราะห์มาน โอธมาน ผู้อำนวยการกรมตรวจคนเข้าเมืองมาเลย์ ระบุว่า หญิงขายบริการเหล่านั้นจ่ายเงินซื้อสามีเพื่อจะได้วีซ่าระยะยาว แม้ว่าการขายบริการทางเพศจะผิดกฎหมาย แต่หญิงพวกนี้ไม่ต้องถูกลงโทษภายใต้กฎหมายคนเข้าเมือง เนื่องจากพวกเธอแต่งงานอย่างถูกกฎหมาย

หญิงขายบริการชาวต่างชาติ ในมาเลเซียทำเงินได้ถึงเดือนละ 20,000 ริงกิต หรือเกือบ 2 แสนบาท โดยจะจ่าย 5,000 ริงกิตต่อเดือนสำหรับการแต่งงานเพื่อความสะดวกสบาย ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับที่พวกเธอต้องเสียไป หากต้องออก จากมาเลเซียไปเพื่อต่อวีซ่า

อย่างไรก็ดี ยังมีข้อมูลจาก ผู้หญิงรายหนึ่ง ที่เคยผ่านประสบการณ์ เส้นทางค้ากามในสิงคโปร์มาแล้ว โดยเธอ ได้เปิดเผยตอนหนึ่งว่า ช่วงระยะหลังมานี้ยังมีหญิงไทยที่ยังนิยมเข้าไปทำงานในแบบนี้ เนื่องจากต่างก็หวังที่จะเก็บเงินให้ได้ซักก้อน แต่ต้องบอกว่า คิดมันง่าย แต่ทำมันยาก เพราะหากใจไม่แข็งพอ ไม่มีวินัยในตัวเอง เงินเมื่อได้มาง่าย ก็อาจจะใช้ไปง่าย บางคนไป 2 เดือนเก็บเงินได้เป็นแสน แต่พอกลับมาเมืองไทย ไปติดผู้ชาย กินเหล้า เที่ยว เล่นการพนัน ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว เงินที่ทนเหนื่อยมาก็หมด สุดท้ายก็ต้องหันหัวกลับไปอีก

"ตอนนี้เราเอง กลับไปไม่ได้แล้ว ก็ได้แต่ดูแลส่งคนไปให้ เพราะมีญาติทำร้านอยู่ที่นั่นแล้ว โดยก่อนไปจะคุยรายละเอียด ซึ่งคนที่เราส่งไป จะกลับมาบอกและแนะนำเพื่อนๆให้ไปทำงาน เพราะเราส่งไปในที่ดี อยู่อย่างปลอดภัย ทำงานกันแบบพี่น้อง ไม่ใช่เอาไปกดขี่ ซึ่งพวกนั้นที่หลอกลวงก็มี ก็ต้องระวังตัวเอา ครั้งหนึ่งเราเคยรับแขกคืนหนึ่งถึง 53 ราย แต่เมื่อกลับมาได้ข่าวว่า มีรุ่นน้องไปทำสถิติใหม่เอาไว้ โดยรับลูกค้าถึง 56 คน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. - 23.00 น.ก็ต้องบอกว่าสะบักสะบอมกันไปเลย" อดีตหญิงไทยที่ประสบการณ์ตรง เผยให้ฟัง

พร้อมกันนี้ เธอ ยังย้ำว่า ทุกคนที่ไปไม่มีใครอยากทำ แต่ที่ต้องสู้ ก็เพื่อขอโอกาสที่จะกลับมาสร้างตัวในเมืองไทย เพราะเวลาอยู่เมืองไทย เมื่อไม่มีเงินก็ไม่มีการยอมรับ...

ได้อ่านกับแบบนี้ แล้วคิดว่า การรวมอาเซียนเข้าด้วยกัน เรื่องแบบนี้จะดีขึ้นมั๊ย หรือจะยอมรับและสร้างบรรทัดฐานแห่งอาชีพกันต่อไป...
loading...




0 comments:

Post a Comment